Subscribe:
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพที่ดี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพที่ดี แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เราจะสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นได้อย่างไร

เราจะสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นได้อย่างไร

                นี่เป็นคำถามที่ตอบง่ายมาก เพราะเราต้องมี ความรู้เราจึงจะสามารถช่วยตนเองให้แข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นได้ ถ้าปราศจากความรู้ทุกอย่างก็มืดมน แต่ความรู้นั้นเป็นเพียงแผนที่นำทาง เราอยากไปให้ถึงจุดหมายเราต้องก้าวเดินออกไปตามแผนที่ ก้าวไปด้วยขาของเราเอง ไม่มีใครมาก้าวเดินแทนเราได้ สุขภาพเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆ สุขภาพจึงต้องสร้างด้วยตัวเราเองเท่านั้น
                ความรู้ในการสร้างสุขภาพที่ดีมีมากมายหลายศาสตร์หลายสูตร หลายความคิด หลากความเชื่อ แล้วแต่ใครเชื่อแนวไหนก็เดินไปตามแนวทางนั้น แต่ที่ผมจะมาแนะนำทางเดินไหนมาให้เรานั้น ผมจะพาเดินไปในทิศทางที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ คือ 4 เส้นทางหลักดังที่กล่าวมาแล้ว

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สุขภาพดีต้องมีอะไรบ้าง

สุขภาพที่ดี

                องค์การอนามัยโลกประกาศว่า สุขภาพดีนั้นมิใช่เพียงการไม่มีโรคเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญร่วมด้วย ปัจจัยที่สำคัญมี 4 ด้าน ดังนี้
1.       ร่างกาย
2.       จิตใจ
3.       สังคมสิ่งแวดล้อม
4.       จิตวิญญาณ
คนที่มีสุขภาพดีต้องเป็นคนที่มีความสมบูรณ์พร้อมทั้ง 4 ด้านนี้ ไม่ใช่เพียงสมบูรณ์ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น การดูแลสุขภาพจึงต้องคิดถึงปัจจัยทั้ง 4 นี้ และพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ด้าน นี่จึงจะเป็นการสร้างสุขภาพที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุด เราต้องปรับปรุงในด้านที่เรายังบกพร่องหรือมีอยู่น้อยให้เพิ่มเติมจนเต็ม เราจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้
                เราจะเห็นได้ว่าสุขภาพตามคำจำกัดความใหม่นี้ ไม่ใช่เรื่องของแพทย์หรือโรงพยาบาลที่จะทำหน้าที่ดูแลสุขภาพให้เรา แต่เป็น ตัวเราที่จะต้องรับผิดชอบและสร้างสุขภาพขึ้นมาด้วยตัวเอง แพทย์ไม่อาจมาดูแลอารมณ์และจิตใจให้เรา ไม่มีหน้าที่มาสร้างสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเรา และยิงไม่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องจิตวิญญาณของเรา แพทย์จะช่วยเราในยามที่เราเจ็บป่วยเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของชีวิต เราเป็นผู้ดูแลตนเอง สุขภาพจึงเป็นหน้าที่ของเราไม่ใช้หน้าที่ของใคร

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

เลือกทานอาหารสดใหม่เสมอ

เลือกทานอาหารสดใหม่เสมอ

                อาหารมีคุณค่ามากที่สุดก็ตอนที่มันยังสดอยู่ เรียกว่าเป็นอาหารที่มีชีวิต คนและพืชผักล้วนมีพลังชีวิตอยู่ในตัวเองทั้งนั้น เรากินผักสดเราจะได้พลังชีวิตของผักมาเพิ่มพลังชีวิตของเรา แต่ถ้าเรากินผักที่เก่าหรืออาหารที่ทิ้งค้างมานานแล้วพลังชีวิตจะลดน้อยลงตามเวลา และในที่สุดก็หมดไป เราจะไม่ได้พลังชีวิตจากอาหาร คงได้เพียงสารอาหารที่มีคุณค่าน้อยลงเรื่อยๆ ตามการเวลาเช่นกัน
                ดังนั้นเราจึงควรกินอาหารสดใหม่ ถ้าเป็นอาหารปรุงสุกก็ต้องรีบกินทันทีหลังการปรุงเสร็จ จะได้สารอาหารมากกว่ารอไปกินอีกวันรุ่งขึ้น ซึ่งสารอาหารจะสลายคุณค่าลงไป และขณะเดียวกันจะเกิดสารพิษเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ อาหารค้างคืนจึงไม่ควรกินเลย เพราะอาจได้รับสารพิษมากกว่าประโยชน์จากอาหาร
                อาหารกล่องก็เช่นเดียวกัน ถือเป็นอาหารที่ตายแล้ว ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรกินอาหารกล่องที่แพ็คขายกันตามห้างสรรพสนค้าทั่วไป อาหารกล่องถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับสังคมที่เร่งรีบ ซึ่งเป็นสังคมที่ไม่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี เราต้องทำชีวิตของเราไม่ให้เร่งรีบจนเกินไป เราจะได้ไม่ต้องกินอาหารกล่องแบบนั้น

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

เส้นทางสู่ความไม่มีโรค

                
                เส้นทางที่จะนำเราไปสู่ความไม่มีโรคนั้น จะว่าเป็นเรื่องยากก็ยาก จะว่าเป็นเรื่องง่ายก็ง่าย ที่จริงวิธีการนั้นง่ายๆ แต่การกระทำนั้นค่อนข้างยาก ที่ยากเพราะว่าเรามักจะเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ซึ่งมักเป็นชีวิตที่ทำลายสุขภาพเสียมาก เราจึงปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้เป็นแบบใหม่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติดั้งเดิมได้ยากหน่อย
                แต่สิ่งที่ยากไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ มันยากเพราะเรายังไม่เคยชินมากกว่า เราจึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงความเคยชินแบบเดิมๆ ของเราไปหาสิ่งใหม่ๆ ที่เราก็ไม่แน่ใจว่าจะดีกว่าชีวิตแบบเดิมๆ ของเราหรือไม่
                เราอาจต้องรอจนถึงวันหนึ่งที่ร่างกายของเราเตือนเราด้วยการเจ็บป่วยขึ้นมา เราจึงจะหาทางปรับเปลี่ยนชีวิตของเราเสียใหม่ สังเกตไหมครับว่า ชีวิตของคนเจ็บป่วยกับชีวิตของคนปกตินั้นต่างกันอย่างไร เราคงอยากมีชีวิตแบบปกติเหมือนเดิม แต่ชีวิตแบบเดิมๆ นั้นอาจเป็นต้นเหตุให้เราเกิดโรคในวันนี้ก็ได้ ถ้าเราไม่แก้ไขที่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญ เราก็ไม่อาจมีสุขภาพที่ดีกลับคืนมาได้อีก
                โรคเรื้อรังที่ชาวโลกทั้งโลกกำลังเป็นกันอย่างมากมายเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือภูมิแพ้ก็ตาม โรคเหล่านี้เป็นโรคที่ไม่มียารักษา มีแต่การใช้ยาบรรเทาอาการไปตลอดชีวิตเท่านั้น เราไม่อาจหายขาดจากโรคนี้ได้ด้วยยา
                โรคที่คุกคามชาวโลกวันนี้ สังเกตดูดีๆ จะพบว่ามันมีสาเหตุมาจาก พฤติกรรมไม่ใช่โรคที่เกิดจากเชื้อโรคเหมือนสมัยโบราณ แต่เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตที่ผิดธรรมชาติของคนเรา ทั้งด้านอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย การทำงาน และสิ่งแวดล้อมของสังคม สิ่งเหล่านี้ไม่เอื้อให้เกิดภาวะสุขภาพดี แต่กลับเป็นปัจจัยเอื้อให้เกิดโรคภัยมากกว่า ที่ร้ายกว่านั้นคือเราไม่รู้ตัวว่าการใช้ชีวิตของเรา เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคขึ้นมา เราจึงไม่ได้แก้ไขที่ต้นเหตุสำคัญ แต่แก้ไขที่ปลายเหตุเพื่อให้อาการทุเลาลง กลบเกลื่อนอาการต่างๆ ไว้ ทำให้โรคซุกซ่อนอยู่ภายในและแพร่ขยายตัวมากขึ้น เกิดเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าเดิมขึ้นตามมาเป็นระลอกๆ
                เส้นทางที่จะนำเราไปสู่สุขภาพดีนั้นจึงมีเคล็ดลับสำคัญคือ การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ